เกร็ดความรู้

AISI 304 คือมาตรฐานอุตสาหกรรมระดับหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาและเป็นข้อกำหนดหลักของสเตนเลสสตีล ที่นำมาผลิตอ่างล้างจานในครัว

ภายใต้มาตรฐานนี้ยังมีการแยกประเภทต่างๆออกไปอีกสำหรับคุณภาพของสเตนเลสสตีลที่แตกต่างกัน ความทนทานต่อการกัดกร่อนขึ้นอยู่กับรายละเอียด

ส่วนประกอบของนิเกิลในสเตนเลสสตีลที่ใช้ระดับคุณภาพขึ้นอยู่กับอัตราส่วนผสมของนิเกิลซึ่งมีราคาสูงมากอ่างชนิดที่ราคาถูกและมีคุณภาพต่ำ

ผลิตจากสเตนเลสสตีลมาตรฐาน18/8 (16-18%โครเมียม6-8% นิเกิล)หรืออาจเป็นสเตนเลสสตีลที่คุณภาพด้อยกว่านั้นอีก

นโยบายคุณภาพของDuraform คือการเสนอมอบสเตนเลสสตีลมาตรฐานยุโรป(EuropeanStandard) 1.4301 หรือ18/10 (18 - 20% โครเมียม9 - 10% นิเกิล)

คำถามที่พบบ่อย 

1) สเตนเลสAISI 304 คืออะไร ?
• ตอบตามคำอธิบายที่แจ้งไว้แล้ว

2) สเตนเลสจะขึ้นสนิมหรือไม่ ?
• สามารถขึ้นได้แต่จะเกิดขึ้นเร็วหรือง่ายขึ้นอยู่กับคุณภาพ ของสเตนเลสตามที่ได้อธิบายไว้แล้วและขึ้นอยู่กับสภาพ แวดล้อมในการใช้งานด้วยไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ความหนาของสเตนเลส

3) อ่างล้างจานที่ทำจากสเตนเลสที่หนาขึ้นจะมีความทนทาน มากขึ้นหรือไม่ ?
• ไม่เพราะอ่างล้างจานที่ใช้ในครัวส่วนมากทำมาจาก สเตนเลสที่ระดับความหนา0.6 mm ถึง0.9 mm ความหนา ของสเตนเลสจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดของหลุมอ่าง
อ่างที่ขนาดหลุมลึกมากจะต้องผลิตโดยใช้แผ่นสเตนเลสที่ หนาขึ้นการเกิดสนิมขึ้นอยู่กับระดับคุณภาพของสเตนเลส ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับความหนา

4) หัวปรับความดันแก๊สมีประสิทธิภาพเหมือนกันกับระบบ ป้องกันไฟเซฟตี้วาวล์หรือไม่ ?
• ไม่เหมือนกันเพราะหัวปรับความดันแก๊ส(ชนิดความดันต่ำ) จะใช้งานโดยต่อกับถังแก๊สหุงต้มเพื่อที่จะจ่ายแก๊ส ในปริมาณคงที่ไปที่หัวเตาแก๊สหัวปรับความดันแก๊สจะ
ไม่หยุดจ่ายแก๊สในกรณีที่เปลวไฟที่หัวเตาแก๊สถูกดับโดยบังเอิญ

5) ผู้ใช้งานจำเป็นต้องใช้หัวปรับความดันแก๊สเฉพาะที่ความดัน37 มิลลิบาร์หรือ0.5 psi เท่านั้นหรือไม่ ?
• ไม่จำเป็นเตาแก๊สส่วนใหญ่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อใช้งานระหว่างความดันที่20 ถึง45 มิลลิบาร์(0.30 ถึง0.65 psi หรือ200 ถึง450 mm. ของน้ำ)
สิ่งสำคัญที่ควรสังเกตคือหัวปรับความดันแก๊สต้องมีเครื่องหมายมาตรฐานเพื่อยืนยันว่าเป็นสินค้าที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

6) เวลาเลือกซื้อเครื่องดูดควันขนาดของมอเตอร์หรือระดับกำลังดูดอากาศของเครื่องมีความสำคัญมากกว่ากัน ?
• ระดับกำลังดูดอากาศของเครื่องเพราะโดยทั่วไปแล้วขนาดของมอเตอร์จะแจ้งไว้แค่ปริมาณไฟที่ใช้(วัตต์) แต่ไม่ได้แจ้งถึงประสิทธิภาพในการใช้งาน
โดยปกติระดับกำลังดูดอากาศของเครื่องประมาณ500 ลูกบาศก์เมตร ชม. จะมีประสิทธิภาพต่อการปรุงอาหารทุกรูปแบบ